Happy New Year 2023 สวัสดีปีใหม่ 2566

กย 9666 จันทุบรี

สวัสดีปีใหม่ 2023 ครับ อาจจะช้าไปสักนิด พอดีช่วงหยุดปีใหม่ ที่ผ่านมา
ผมเองมีภารกิจ กลับไปทำ checklist ที่ list ไว้ว่าจะไปทำที่บ้าน
เพราะว่า นานๆ กลับที ไม่ได้กลับบ่อย ก็เลยต้องไปทำให้เสร็จครับ ..
จริงๆ list ไว้หลายอย่างมาก แต่ทำไม่สำเร็จ เพราะว่า ไม่มีเวลาพอ
บางอย่าง ก็ทำเองไม่ได้ทั้งหมด +___+
ที่ทำเสร็จไปแล้ว ก็มีประมาณนี้
– ติดม่านกันแสง UV หน้าต่าง ประตู ทั่วบ้าน หลังจากปล่อยโล่งๆ มา 8 ปี
– ติดกล้องวงจรปิดใหม่ ครอบคลุม และมีประสิทธิภาพมากขึ้น
– ติดระบบไฟ Solar รอบบ้าน ให้แสงสว่าง ประหยัดพลังงาน
– ซ่อมแซม เครื่องมือเครื่องใช้ต่างๆ ให้ทำงานได้ปกติ เหมือนเดิม
– ซ่อมแซม และทำระบบเพิ่ม ทั้ง IoT และ Weather Station
– ซ่อมแซม ตรวจสอบ Jeep ให้ทำงานได้ปกติ (ยังเหลือ switch ประตู และระบบไฟ)
– อื่นๆ ก็ทำนั้นทำนี่ ให้ดีขึ้น ให้สมบูรณ์ขึ้น

สำหรับปี 2022 ที่ผ่านมา ถือว่าเป็นปีที่เกิดการเปลี่ยนแปลง อย่างยิ่งเหมือนกันสำหรับผม
– เข้ามาอยู่ กทม. อีกรอบ ช่วงโควิด (Dec 2021) เช่าคอนโด อยู่ใจกลางเมือง ย่านรัชโยธิน
– งานส่วนใหญ่ ก็ยังเป็น เกี่ยวกับ DevOps ทำ Infrastructure, CI/CD Tools, Monitoring Tools ให้ Developers ใช้งาน
– ได้เข้าไปทำงาน ในระบบธุรกิจใหม่ๆ ที่ไม่เคยทำมาก่อน ก็สนุกดี ได้เจออะไรแปลกๆ ใหม่ๆ เยอะดี
– บริษัทที่ทำงานด้วย ดีมาก ไม่ได้เน้นระเบียบ หรือกระบวนการ ที่ไม่จำเป็น ทำให้ทำงานได้แบบมีประสิทธิภาพและคุณภาพ มากขึ้น, ไม่ต้องเข้า office ทุกวัน
– เดินทาง ท่องเที่ยว มากขึ้น เพราะโควิด เริ่มไม่รุนแรง
– รายได้ ของปีนี้ เริ่มดีขึ้น ทุกอย่างเริ่มลงตัวขึ้น
– หันมาออกกำลังกาย ช่วงปลายปี เพื่อสุขภาพ
– งดดื่ม ถ้าไม่จำเป็น +____+
– ผลตรวจสุขภาพ ประจำปี แบบละเอียด (package 5500 ของ รพ.สมิติเวช) พบว่าสุขภาพดีขึ้น จากปีก่อนๆ ที่ร่างกายหักโหม ดื่มหนัก ไม่ได้ออกกำลังกาย
– ได้มีเวลา หยุดยาว ช่วงปลายปี กลับไปอยู่บ้าน ที่จันทบุรี
– ได้ทะเบียนใหม่ มาใส่ Jeep ละครับ กย 9666 จันทบุรี ผลรวม = 36 ก็ถือว่าดีมาก สำหรับเลขนี้ ผลรวมนี้ ส่วนตัวผม เลขนี้ ก็มีความหมายของมันเอง สำหรับรถ ก็คือรถปี 1996 แล้วก็ทะเบียน ได้มาใช้ปี 2566 อีกด้วย ลงตัวเป๊ะ 🙂

สำหรับปี 2023 ที่คาดหวังไว้ และอยากทำ มีประมาณนี้
– ก็ยังคงเหมือนปี 2022 ที่ยังทำไม่ได้ทั้งหมด +___+
– ออกกำลังกาย มากขึ้น เลือกกินอาหาร ที่ดีต่อร่างกาย เน้นเรื่องสุขภาพเป็นหลัก
– ลดน้ำหนัก ให้เหลือ <= 75 (ปัจจุบัน 81-82)
– ทำงานที่ได้รับมอบหมาย ให้มีประสิทธิภาพ ดีที่สุด ให้เกินกว่าที่ต้องทำ ในทุกมิติ
– ศึกษาหาความรู้ เพิ่มเติมเสมอ
– เดินทาง ท่องเที่ยว ให้มากขึ้น ไปที่ใหม่ๆ ที่ไม่เคยไปบ้าง
– ใช้จ่ายอย่างประหยัด ใช้เท่าที่จำเป็น, ลงทุน หลายๆ ทางที่พอมีความเป็นไปได้
– ทำธุรกิจ เกี่ยวกับ technology ด้านการเกษตร (Agritech) จริงๆ จังๆ
– อยากทำ มอเตอร์ไซค์ ให้เช่าที่ปาย และเมืองท่องเที่ยวอื่นๆ
– เก็บสะสม รถที่ชอบ และราคาไม่น่าจะตกแล้ว
– กลับบ้านให้บ่อยขึ้น
– ช่วยเหลือสังคม เท่าที่กำลังกาย และกำลังทรัพย์ พอจะทำได้ 🙂

Happy New Year 2022 สวัสดีปีใหม่ 2565

Jeep ZJ

สวัสดี ปีใหม่ 2022 ครับ .. สำหรับปี 2021 ที่ผ่านมาถือว่าเป็นปีที่ มีอะไรให้ทำเยอะพอสมควรเลย .. เป็นปีที่มีการเปลี่ยนแปลงเยอะมาก เนื่องมาจาก COVID19 ทำให้มีโอกาสได้กลับไป WFH อยู่บ้าน เกือบทั้งปี ..

เพิ่งเข้ามา กทม. ช่วง Dec 2021 ได้มาเจอหน้าตาเพื่อนพ้องน้องพี่ เพื่อนร่วมงานสักหน่อย .. ก่อนที่โควิด รอบใหม่ (โอมิคอน) จะมาอีกรอบ +___+

ช่วงปีใหม่ปีนี้ ก็น่าจะเป็นในรอบ หลายๆ ปี ที่ผม อยู่ กทม. ปกติก็จะเดินทาง ต่างประเทศ ต่างจังหวัด ไม่ก็กลับบ้าน ที่จันทบุรี .. แต่ปีนี้ ไม่ได้ไปไหนครับ ไม่อยากเสี่ยง เพราะว่ายังฉีดวัคซีน แค่เข็มเดียว ..

สำหรับปี 2021 ที่ผ่านมา ก็มีเรื่องราวหลายๆ อย่าง เข้ามาในชีวิต ที่อยากบันทีกไว้ ..
– ผ่านค่าย Super AI Engineer #1 รุ่นแรก (สอบคัดเลือก 100 คนจากผู้สนใจ 3-4000 คน ทั่วประเทศ) ได้ความรู้ดีๆ เยอะมาก และได้รู้จักเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ เก่งๆ มากมาย ทุกวันนี้ ก็ยังคุยกันอยู่ทุกวัน กับแก็งค์ ที่ไปพักด้วยกัน สนิทกัน (ศาลพระภูมิ)
– กลับไป WFH ที่บ้าน แทบทั้งปี เพราะ COVID19 รอบใหม่มา ดีที่แถวบ้านมี 7deli เลยพอได้สั่งกาแฟ ขนม มากินบ้าง
– อยู่บ้านพอมีเวลา ได้อยู่กับครอบครัว ญาติพี่น้อง ทำนั่นทำนี่ เข้าสวนบ้าง ไรบ้าง .. ได้ซื้อสิ่งที่ขาด เฟอร์นิเจอร์ มาเติมเต็มบ้าน ให้อยู่ได้จริง ใช้ทำงานได้จริง
– การอยู่บ้าน WFH เป็นสิ่งที่ดีมาก ไม่ต้องเดินทาง ไม่ต้องเจอฝุ่นควัน มีอาหารอร่อยๆ กิน .. และประหยัดมากๆ (ไปกินข้าวที่บ้านแม่) ทำให้ ไม่อยากอยู่ กทม. เลย
– ทำงานด้าน Data Engineer อย่างจริงจัง ได้ทำ MLOps, MLFlow ให้เป็น CI/CD Pipeline
– เข้าไปวุ่นกับ ELK Stack แบบที่เป็น cloud service (elastic.co) ทำให้เข้าใจเลย ว่า cost แพงขนาดนี้ ทำไมจ่ายได้
– ได้เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับ App 7-Eleven ในส่วนของ 7deli ทำให้เข้าใจมุมมองของบริษัทใหญ่ อย่าง CPAll ที่ปรับตัวได้เร็วมาก ในช่วงโควิด พลิกวิกฤติ ได้อย่างน่าชื่นชมมาก ..
– ได้มามีส่วนร่วมกับ App Start-Up ของคนไทย ด้าน Food Delivery ที่ทำเพื่อคนไทย โดยแนวคิดเพื่อช่วยเหลือพี่น้องชาวไทย ที่ประสบปัญหา ในช่วงโควิด .. ที่แข่งขันกับ App ของต่างชาติ ทุนหนาๆ ได้เลย ..
– ได้ Jeep ZJ มาใช้งานสักที หลังจาก ทำมาเกือบ 2 ปี .. แต่ได้มาปุ๊บ ก็เข้า กทม. ปั๊บ ไม่มีโอกาส ได้ใช้งาน
– รายได้จากงานนอก จากลูกค้า รายเล็กๆ ลดลงเยอะมาก เพราะเจอพิษโควิดกัน
– จากวิกฤติโควิด ทำให้อยากอยู่อย่างสมถะ ไม่อยากได้ อยากมี อะไรที่ไม่จำเป็น เพราะอะไรที่เยอะไปจะเป็นภาระ มากเปล่าๆ

สำหรับ ปี 2022 ที่คาดหวัง ว่าจะทำได้ และอยากทำ
– ตั้งใจ เรื่องการมีครอบครัว ให้มากขึ้น อายุเข้าเลข 4 แล้ว +___+
– หาธุรกิจ ที่ไม่ใช่งาน ด้าน tech อย่างเดียวทำ ให้มีหลากหลายรายได้ เพราะว่า รายได้ จากความรู้ทางเดียว ไม่ยั่งยืน
– อยากลงไปทำสวน ทำการเกษตร จริงๆ จังๆ มากขึ้น
– ทำ product ของตัวเอง ที่พัฒนามา จริงๆ จังๆ ออกสู่ตลาด สักที
– ตั้งใจทำงานประจำ ให้ดีที่สุด ในเมื่อได้รับโอกาสแล้ว ก็ต้องเต็มที่ ต้องทุ่มเท แบบสมัย WeLove
– อยากเดินทาง ถ้ามีโอกาส เพราะพิษโควิด ทำให้ไม่ได้เดินทางมา 2-3 ปีแล้ว
– ช่วยเหลือสังคม เท่าที่จะช่วยได้ ทั้งแรงกาย แรงใจ แรงเงิน

สวัสดี ปีใหม่ 2020 ครับ

Happy New Year 2020

สวัสดีปีใหม่ 2020 ครับ เป็นประจำทุกปี ที่จะต้องมา update เรื่องราวระหว่างปี ที่ผ่านไป เพื่อเก็บไว้เป็นความทรงจำ

สำหรับปี 2019 ที่ผ่านมา นับว่าเป็นปี ที่มีความเปลี่ยนแปลงอย่างมาก ต้องย้ายถิ่นฐานที่อยู่ ไปหลายแห่ง ตามงานที่ทำ ทั้งย่าน บางนา, Big C รามคำแหง, เมืองทองธานี, อารีย์ งานที่ทำหลักๆ ก็ยังเป็นทางด้าน DevOps CICD, AI, และงานที่ปรึกษา ในด้านการวางระบบ ว่าทำอย่างไร จะทำให้ระบบ รับ load สูงๆ ได้ โดยการนำเอา Open Source มาใช้งาน ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด และลดค่าใช้จ่าย ในการซื้อ Software และ License ให้ได้มากที่สุด ..

สำหรับปี 2020 นี้ งานที่ทำ จะเป็นงานที่ท้าทายมาก ต้องเปลี่ยนตัวเองเยอะมากเหมือนกัน จาก stack ที่ไม่คุ้นเลย ทางฝั่ง Microsoft มาเป็น Open Source บน Container Platform แต่ถ้าทำได้สำเร็จ ก็จะเป็นสิ่งที่ดี สร้าง value ให้องค์กร ได้เยอะมาก เลยทีเดียว ..

ในด้านชีวิตส่วนตัว ตอนนี้ ก็เข้าใกล้อายุเลข 4 เข้าไปมากแล้ว สิ่งที่คาดหวัง และคนอื่นคาดหวัง ก็คงไม่พ้นเรื่องการแต่งงาน มีครอบครัว ซึ่งก็ต้องให้ความสำคัญตรงนี้ เป็น priority หลัก เหมือนกัน จะมัวแต่ชิลๆ เรื่อยๆ ไม่ได้แล้ว 🙂

ในด้านการเดินทาง ปีที่ผ่านมา ถือว่าเดินทางน้อยกว่าปีอื่นๆ มาก เพราะว่า ทำงานประจำ หาเวลา เดินทางทีละหลายวันยาก แต่ปีนี้ ถ้าอะไรเข้าที่เข้าทาง ก็น่าจะพอมีเวลามากขึ้น ยังมี checklist ที่ที่อยากไป อีกเยอะมาก ในโลกนี้ ถ้าไม่ไปช่วงนี้ ไม่รู้จะไปช่วงไหน ..

วิธีเลือกซื้อมังคุด ตามฤดูกาล

สวัสดีครับ วันนี้ผมจะมาพูดถึง “มังคุด” ราชินีแห่งผลไม้ สักหน่อยครับ เนื่องจากช่วงนี้ เป็นฤดูกาล ที่มังคุด ของ จ.จันทบุรี และภาคตะวันออก กำลังออกกัน ..

ถิ่นกำเนิดของมังคุดอยู่ที่หมู่เกาะซุนดาและโมลุกกะ ประเทศอินโดนีเซีย และขยายพันธุ์มาปลูกในภาคใต้ และภาคตะวันออกของประเทศไทย ..

มังคุดที่ปลูกอยู่ทั่วเมืองไทยเป็นสายพันธุ์พื้นเมือง ต้นมังคุดเจริญเติบโตจากต้นแม่ ที่ไม่ได้รับการผสมเกสร เพราะเกสรของมังคุดตัวผู้จะเป็นหมัน ทำให้มังคุดในแต่ละท้องที่ก็คือสายพันธุ์เดียวกัน แต่ผลผลิตที่ได้อาจจะแตกต่างกัน แล้วแต่สภาพแวดล้อม ในแต่ละพื้นที่ ..

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของมังคุด
ชื่อสามัญ Mangosteen ชื่อวิทยาศาสตร์ Garcinia mangostana เป็นไม้ยืนต้น สูง 10-25 เมตร มีใบเดี่ยวรูปไข่ เนื้อใบหนาและเหนียว สีเขียวเข้มเป็นมัน ออกดอกเป็นดอกเดี่ยวหรือดอกคู่ มีกลีบเลี้ยงสีเขียวอมเหลือง และกลีบดอกสีแดง ผลมังคุดเป็นทรงกลม มีเปลือกหนาสีม่วงอมแดงห่อหุ้มเมล็ด 6-8 เมล็ดภายในที่มีสีขาวนวล เนื้อนุ่มฉ่ำน้ำ รสหวานอมเปรี้ยว มังคุดเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระตามธรรมชาติ มีสารในกลุ่ม Xanthones ไม่ต่ำกว่า 40 ชนิด โดยเฉพาะบริเวณเปลือกของมังคุด และสารที่มีฤทธิ์มากที่สุดคือ GM-1 สารกลุ่มแซนโทนส์นั้นมีคุณสมบัติ ฆ่าแบคทีเรีย ต้านการอักเสบ ต้านอนุมูลอิสระ ฆ่าเซลล์มะเร็ง อย่างไรก็ตามปัจจุบันสาร GM-1 ยังไม่ได้จดทะเบียนเป็นยา ควรศึกษาแพทย์ก่อนรับประทาน

สารอาหารในมังคุด จากรายงานของ USDA Food Composition Databases เนื้อมังคุด 100 กรัม มีส่วนประกอบโดยประมาณ ดังต่อไปนี้

• พลังงาน 73 กิโลแคลอรี่
• น้ำ 80.94 กรัม
• โปรตีน 0.41 กรัม
• คาร์โบไฮเดรตรวมทั้งหมด 17.91 กรัม
• ไฟเบอร์ 1.8 กรัม
• ไขมัน 0.58 กรัม

วิตามิน
• วิตามิน B1 (Thiamine) 0.054 มิลลิกรัม
• วิตามิน B2 (Riboflavin) 0.054 มิลลิกรัม
• วิตามิน B3 (Niacin) 0.286 มิลลิกรัม
• วิตามิน B5 (Pantothenic acid) 0.032 มิลลิกรัม
• วิตามิน B6 (Pyridoxine) 0.018 มิลลิกรัม
• วิตามิน B9 หรือโฟเลต 31 ไมโครกรัม
• เบต้า แคโรทีน 16 ไมโครกรัม
• อัลฟ่า แคโรทีน 1 ไมโครกรัม
• เบต้า คริปโตแซนทีน 9 ไมโครกรัม
• วิตามิน C (Ascorbic acid) 2.9 มิลลิกรัม
• วิตามิน A 35 IU

แร่ธาตุต่างๆ
• แคลเซี่ยม 12 มิลลิกรัม
• ธาตุเหล็ก 0.3 มิลลิกรัม
• แมกนีเซี่ยม 13 มิลลิกรัม
• ฟอสฟอรัส 8 มิลลิกรัม
• โพแทสเซี่ยม 48 มิลลิกรัม
• โซเดี่ยม 7 มิลลิกรัม
• ธาตุสังกะสี 0.21 มิลลิกรัม
• ธาตุทองแดง 0.069 มิลลิกรัม
• ธาตุแมงกานีส 0.102 มิลลิกรัม

ประโยชน์ของมังคุด
1. มีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยชะลอการเสื่อมสภาพของร่างกายส่งผลให้ร่างกายของเรานั้นแก่ช้าลง ช่วยให้ลดการเกิดริ้วรอยและทำให้ผิวพรรณของเราดูเปล่งปลั่ง
2. ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานให้ร่างกายของเราแข็งแรง และป้องกันหรือบรรเทาอาการไข้ได้อีกด้วย
3. ช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรงยิ่งขึ้น
4. ช่วยเพิ่มความกระปรี้เปร่า ตื่นตัวของร่างกายได้เป็นอย่างดี และยังช่วยให้สภาวะทางอารมณ์ของเราดีขึ้นได้อีกด้วย
5. ช่วยยับยั้งแบคทีเรียในร่างกายของเราได้เป็นอย่างดี
6. ช่วยป้องกันการเกิดโรคเบาหวาน เนื่องด้วยคุณสมบัติของมังคุดที่จะช่วยลดและควบคุมระดับน้ำตาลในร่างกายของเรา
7. ช่วยลดระดับคลอเรสเตอรอลและไขมันไม่ดีในเส้นเลือด
8. สาร Xanthones มีฤทธิ์ช่วยลดความดันโลหิต
8. มีส่วนช่วยป้องกันการเกิดเนื้องอกในร่างกายของเรา
9. ช่วยในเรื่องระบบขับถ่ายเนื่องจากมังคุดนั้นมีกากใยอยู่จำนวนมาก
10. เปลือกของมังคุดมีสรรพคุณในการสมานแผล และยับยั้งเชื้อราที่เป็นสาเหตุของโรคผิวหนัง


เรียงลำดับสี ของมังคุด ในระยะต่างๆ
1. เริ่มมีจุดสีเลือด ในบางจุด ของผล
2. มีจุดสีเลือดกระจายไปทั่วทั้งผล และผลเริ่มเป็นสีชมพู
3. ผลเป็นสีชมพูเข้ม ทั้งผล
4. สีเริ่มเป็นสีเปลือกมังคุด ระยะนี้ทานได้แล้ว
5. สีเริ่มเป็นสีดำ ระยะนี้ควรรีบทาน เพราะเป็นระยะสุดท้าย ของมังคุดแล้ว

วิธีเลือกมังคุด
มังคุดที่ดี จะมีลักษณะลูกกลมแป้น ผิวอาจจะมัน หรือเป็นกลาก ก็ไม่ใช้ปัญหา เพราะส่วนสำคัญคือเนื้อข้างใน ต้องเป็นสีขาว เป็นกลีบเรียงกัน อย่างเป็นระเบียบ บางคนอาจจะชอบผลเล็ก เพราะไม่มีเมล็ด บางคนอาจจะชอบผลใหญ่ เพราะมีเนื้อมังคุดที่มากกว่า อันนี้ แล้วแต่คนชอบ ส่วนราคา แน่นอนว่า ผลขนาดใหญ่ ผิวมัน จะมีราคาแพงกว่า ..

ในประเทศไทยเอง ตามห้างต่างๆ ที่เอามังคุดไปขาย ส่วนใหญ่จะเป็นเกรดตกไซส์ คือผลเล็กผิวดำ เพราะว่า เกรดส่งออก ผลใหญ่ ผิวมัน ส่วนใหญ่ ล้งต่างๆ จะมารับซื้อตรงจากชาวสวนในพื้นที่ไปหมดแล้ว เพื่อทำการส่งออกไปยังต่างประเทศ และจะให้ราคาค่อนข้างดี ..

มังคุด 100 ปี คืออะไร?
มังคุด 100 ปี คือมังคุดที่ต้นมีอายุมากๆ ระดับ 60 – 100 ปีขึ้นไป จะให้ผลที่มีรสชาต อร่อย หวาน กว่ามังคุดอายุน้อยๆ เป็นที่นิยมรับประทานกัน ต้นจะใหญ่ สูงมาก ..

สำหรับเพื่อนๆ ที่สนใจ อยากสั่งซื้อมังคุด 100 ปี คุณภาพดี เกรดส่งออก ปลอดสารเคมี สดๆ จากสวนผมเอง สามารถสั่งซื้อผ่านทาง shopee ด้านล่างนี้ได้เลยครับ ..

แบบ มันลาย 9-10 ลูก/kg
https://shopee.co.th/ton350d/2062354563?v=784&smtt=0.0.1

แบบ มันจั้มโบ้ 7-9 ลูก/kg
https://shopee.co.th/ton350d/2062465862?v=2ca&smtt=0.0.1

ขอบคุณรายละเอียดจาก
https://maanow.com/%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%99%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%89/426-%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%94.html

https://medthai.com/%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%94/

LINE Bot + node.js + MQTT + ESP32 (IoT) เปิด/ปิด ไฟ (ตอนที่ 1)

สวัสดีครับ เพื่อนๆ ทุกท่าน ผมเอง ไม่ได้ มา update blog เป็นเวลานานเหมือนกัน เผลอๆ แป๊บๆ ก็จะสิ้นปีอีกแล้ว ..

ปีนี้ ที่ผ่านมาผมได้มีโอกาสกลับไปอยู่บ้าน ที่จันทบุรี ได้ลงไปสัมผัส ไปเป็นเกษตรกรจริงๆ ด้วยตัวเอง ทำให้ได้รับประสบการณ์ ที่ดีมาก ได้รู้ว่าจริงๆ แล้ว เกษตรกร (ชาวสวน) เค้าต้องการอะไร เค้าขาดอะไร และทำอย่างไร จะทำให้ การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น มีเวลาพักผ่อนอยู่กับครอบครัวมากขึ้น มีความสุขมากขึ้น รายได้เพิ่มขึ้น และค่าใช้จ่ายลดลง ..

จึงเกิดเป็น Project นี้ขึ้นมา คือระบบเปิด/ปิด มอเตอร์สูบน้ำ ผ่าน LINE Bot หรือ LINE Messaging API นั่นเอง ที่ผมเลือกใช้ Chat Bot มาเป็นระบบสั่งเปิด/ปิด เพราะว่า เป็นการง่ายสำหรับเกษตรกร เพราะปกติเค้าใช้ LINE ผ่านมือถือกันอยู่แล้ว จะได้ไม่ต้องวุ่นวาย ลง App ใหม่ๆ หรือเรียนรู้ App ใหม่ๆ เพราะแค่พิมพ์ เปิด/ปิด มอเตอร์สูบน้ำ ที่อยู่ ที่สระน้ำสาธารณะ ของหมู่บ้าน หรือตามริมคลอง ริมแม่น้ำ ก็จะทำงานตามคำสั่งทันที ..

Stack ที่ผมใช้ ใน Project นี้ จะเป็น Open Source ทั้งหมด และมีให้เราใช้ฟรีๆ กันอยู่แล้ว ส่วนตัว H/W (IoT device)  ตอนแรก ผมสนใจ NB-IoT, LoRa เหมือนกัน เพราะตาม concept มันเหมาะมาก ในเรื่องของการรับส่งระยะไกล และประหยัดพลังงาน แต่ติดอยู่ที่ว่า ราคาของ H/W ยังสูง และเครือข่าย ยังไม่ครอบคลุมทั่วถึง ก็เลยกลับไปคิดถึง IoT device ที่เป็น WiFi 2.4GHz ทั่วๆ ไป ที่ราคาตอนนี้ ไม่แพง ประมาณ 100-150 บาท/บอร์ด เช่นพวกที่ใช้ chip ESP8266, ESP32 แทน และบริเวณที่ไปใช้งาน ไฟฟ้าเข้าถึงแล้ว จึงไม่ต้องห่วงเรื่องของพลังงานไฟฟ้า เท่าไรนัก แต่ถ้าเป็นไปได้ ก็จะทำให้อยู่ใน deep sleep mode เพราะจะทำให้ประหยัดพลังงานและ เกิดความร้อน น้อยกว่า mode ปกติ ..

Stack ต่างๆ สรุป มีดังต่อไปนี้ 
– LINE Messaging API (LINE Bot)
– node.js (Heroku)
– MQTT (Heroku)
– ESP32 (IoT device) + WiFiManager

อ่านต่อตอนที่ 2 (ตอนจบ) ได้ที่นี่ครับ http://ton.packetlove.com/blog/iot/line-bot-node-js-mqtt-esp32-iot-2.html

Add LINE มาลองเล่น กับ tonofarmbot กันดูได้ครับ

Review ที่พัก Siamaze Hostel Bangkok

Siamaze Hostel Bangkok

วันนี้ มีเวลาว่างๆ เลยมาเขียน review แนะนำที่พัก แบบ hostel ที่ไปพักบ่อยๆ เวลาขึ้นมา กทม. สักหน่อย ครับ ..

Siamaze Hostel อยู่ใน รัชดา ซ.17 ห่างจากสถานี รถไฟฟ้าใต้ดิน สุทธิสาร ประมาณ 500m
สามารถเดินเข้าไปได้ง่าย ด้านหน้าซอย 17 จะมีร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้าต่างๆ มากมาย ทั้ง MC Donald, Maxvalu, ร้านกาแฟ, ร้านส้มตำ, ร้านสุกี้หม้อไฟ ..

ส่วนด้านใน ซอย 17 ใกล้ๆ กับที่พัก ก็จะมีร้านสะดวกซื้อ ทั้ง 7-ELEVEN และ FamilyMart ร้านอาหารตามสั่ง ต่างๆ ก็มีอยู่หลายร้านบริเวณนั้น ..

ที่ Hostel เอง ก็มีบริการ อาหาร เครื่องดื่ม ให้กับผู้เข้าพัก ในราคาไม่แพง และจะมีฟรี อาหารเช้า แบบที่เรา สามารถทำกินเองได้ (DIY) มีกระทะ เครื่องปิ้งขนมปัง และวัตถุดิบ พวกไข่ ขนมปัง แยม ไว้ให้ น้ำก็จะมีน้ำเปล่า กับน้ำผลไม้ และก็มีขนม กับผลไม้ ไว้ให้ด้วย เรียกว่าครบกันเลยทีเดียว กับฟรี อาหารเช้า ของที่นี่ ..

ผมเอง มาที่นี่ ก็ได้ฝึกวิชา การทอดไข่ สูตรต่างๆ หลายๆ สูตร เลยทีเดียว .. ทำเองกินเอง ก็อร่อยดี สนุกไปอีกแบบ ..
เราทำกินเสร็จ ก็ต้องล้างกระทะ ล้างจาน ล้างแก้ว เองนะครับ ซึ่งทางที่พัก จะมีที่ล้างจาน น้ำยาล้างจาน และฟองน้ำ ไว้ให้พร้อม ..

มาพูดถึงประเภท ของห้องพักกันบ้าง ขึ้นชื่อว่า Hostel ก็แน่นอนว่า ต้องมีห้องนอนรวม (Dorm) แบบเตียง 2 ชั้น หลายๆ เตียงอยู่แล้ว ซึ่งกำลังเป็น trend ฮิต ของนักเดินทาง backpacker ทั่วโลก ในตอนนี้ ..

การที่เราพัก hostel ทำให้เราได้เพื่อน ได้แลกเปลี่ยนภาษา ได้ข้อมูลรายละเอียดต่างๆ ที่จำเป็นในการเดินทาง เพราะส่วนใหญ่แล้ว คนที่พัก hostel จะเป็น backpacker มากประสบการณ์ ..

หอพักรวม 8 เตียง (8-Bed Mixed Dormitory) ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 200 บาท
หอพักหญิง 8 เตียง (8-Bed Female Dormitory) ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 200 บาท
หอพักรวม 4 เตียง (4-Bed Mixed Dormitory) ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 250 บาท
ห้องออง สวีท เตียงแฝด (En Suite Twin) ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 900 บาท
ห้องออง สวีท เตียงใหญ่ (En Suite Double) ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 900 บาท
ห้องสำหรับครอบครัว (Family) ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 1500 บาท

สำหรับคะแนน ถ้าให้เต็ม 10 สำหรับ Siamaze Hostel ผมให้ประมาณนี้ครับ
ความสะอาด 9
สิ่งอำนวยความสะดวก 10
สถานที่ตั้ง 9
ความสะดวกสบายและคุณภาพของห้องพัก 10
การให้บริการ 9
คุ้มค่ากับเงินที่จ่าย 10

สรุป โดยรวมแล้ว เรียกว่าดีมาก ประทับใจมาก
– Staff ก็ช่วยเหลือดี เป็นกันเองดี
– มี free WiFi ที่คุณภาพดี ทำงานได้สบายๆ ..
– มีพื้นที่ส่วนกลาง ให้พักผ่อน หรือนั่งทำงานได้ ..
– ห้องน้ำ แยกหญิงชาย แยกห้องอาบน้ำ เป็นสัดส่วน และมีจำนวนมาก เพียงพอ ให้กับผู้เข้าพัก ได้ใช้งาน ..
– ฟรีอาหารเช้า ของที่นี่ ก็ดี ประทับใจ ทำให้เราได้ประหยัด ค่าอาหารเช้าไปได้อีกเยอะ ในราคาที่พัก แค่ 200 บาท ถ้าใครเข้าพัก ในคืนวันศุกร์ ก็จะมี free buffet B-B-Q ให้ได้ปิ้งย่างกันด้วย ..
– ส่วนเรื่อง ที่ตั้งของ hostel นั้น ก็ถือว่าไม่ไกล จาก MRT สุทธิสารมากนัก สามารถเดินชิลๆ ได้ มีร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ ใกล้ๆ ที่พัก ไม่ต้องเดินออกไปไกล ..

ผมเห็นฝรั่ง และคนจีนบางคน พักที่นี่กัน หลายเดือนเลย มากี่ครั้ง ห่างกัน 2-3 เดือน ก็ยังเจออยู่ก็มี ..

ดูรายละเอียดที่พัก เพิ่มเติม
Siamaze Hostel Bangkok

ปล.ขอบคุณภาพประกอบ จาก agoda และ Instagram
https://www.instagram.com/explore/tags/siamaze/

Happy New Year 2018

ขอกล่าวคำว่าสวัสดีปี 2018 ล่วงหน้าครับ เพราะว่า อีกไม่กี่วัน ก็จะปีใหม่แล้ว
เวลาเลยผ่านไปไวมากจริงๆ ปี 2017 เป็นปีที่ผมเอง พบกับการเปลี่ยนแปลงมากมาย
ตั้งแต่ออกจากงานประจำที่ทำอยู่ เกือบ 10 ปี มาเป็น freelance แบบเต็มตัว ..

งานประจำที่ทำอยู่ ก็ดีมากๆ ครับ หัวหน้าก็ดี ทิศทางของบริษัท ก็ดี แต่ว่าตัวผมเอง
ก็ถึงจุดที่เรียกว่า comfort zone ละ ก็เลยตัดสินใจ ออกมาหาอะไรใหม่ๆ ทำดู
เพราะถ้าไม่เริ่มตอนนี้ แก่ไปกว่านี้ จะเริ่มยากกว่า หรือจะไม่มีโอกาสเริ่ม ก็เป็นได้ ..

ออกมาเป็น freelance ถามว่ายากไหม ยากมากครับ ยิ่งช่วงเริ่มต้น นี่ยิ่งลำบาก
เพราะยังไม่ชิน ปกติทำงานประจำ เดือนๆ ก็ได้รับเงิน แต่ทำงาน freelance
ต้องทำใจไว้เลย ว่าเงินค่าจ้าง จะไม่เป๊ะเท่าไร ทางทีดี ก็ต้องมีหลายๆงาน ไว้รองรับ ..

แต่สิ่งที่ได้มา จากการเป็น freelance สำหรับผม ผมถือว่าคุ้มมากนะ อย่างน้อย เราก็ได้
กลับไปอยู่บ้าน ได้อยู่ใกล้ชิดกับครอบครัว ได้มีเวลาให้พ่อแม่ ญาติพี่น้องมากขึ้น ได้อยู่ใน
สภาพแวดล้อมที่ดี อากาศบริสุทธิ ได้กินอาหารอร่อยๆ ครบทุกมื้อ ได้ออกกำลังกายทุกวัน ..

แล้วก็ได้เดินทาง ท่องเที่ยว ทั้งใน และต่างประเทศตลอด จริงๆ ก็ไปทำงานนะ แต่เวลา
ที่เหลือ ก็มีโอกาสได้ backpack เที่ยวไปด้วยในตัว ทำให้เราได้เห็นมุมมอง ได้เห็นอะไร
ได้ประสบการณ์ ที่เพิ่มเข้ามา ที่หาซื้อไม่ได้ตามห้างสรรพสินค้า มีเงินอย่างเดียว ใช่ว่าจะ
เที่ยวได้ ต้องกล้าเดินทางด้วย เดินทางตอนนี้ ดีกว่ารอให้แก่ มีเงินเยอะ แต่ไม่ได้ไปไหน ..

ถามว่าจุดหมายของชีวิต คืออะไร จริงๆ ผมไม่ได้เป็นคนเป๊ะๆ แบบนั้น แต่ก็มีจุดหมาย
ความต้องการของผมจริงๆ ก็คือลงไปสัมผัส ชีวิตเกษตรกรชาวสวน ว่าเค้าทำอะไรกันบ้าง
แล้วปัญหาที่เค้าเจอ คืออะไร เผื่อเราจะได้เอาจุดตรงนี้ มาช่วยแก้ไขได้ มาทำให้ดีขึ้นได้
แล้วก็อยากนำเอา technology ที่จำเป็น มาช่วยทำให้งานของเกษตรกร ง่ายขึ้น ..

ตอนนี้ นอกจากรับงานนอก ในด้านการทำ web infrastructure ที่ถนัดแล้ว ก็ทำระบบ
ที่จำเป็นสำหรับ Smart Farming ไว้ใช้งาน ให้ตอบโจทย์ ที่เกษตรกร ต้องการจริงๆ ..

ปีหน้า คงได้มี product เป็นของตัวเองจริงๆ จังๆ เอามาให้เพื่อนๆ ได้ดู ได้ใช้งาน
ได้แนะนำติชม เพื่อปรับปรุงกันต่อไป ..

My Goal

อยู่แบบพอเพียง คือตำตอบของชีวิต

ช่วงค้นหาชีวิต ค้นหาตัวเอง สำหรับผมเอง คงพอเพียงละ ตอนนี้ รู้แล้วว่า อยากทำอะไรมากที่สุด
จากที่ทำงานในระบบ มากว่า 10 ปี เงินเดือนก็หลักแสน แต่ก็ไม่ได้ตอบโจทย์
สิ่งที่ผมอยากทำ หรืออยากเป็น ..

เรากินอะไร เราปลูกนั่น เราได้ออกกำลังกายไปในตัว แบบนี้ ดีกว่า ไม่ต้องสนใจ
กับคำถามที่ว่า ร่ำเรียนมาสูง ทำไปมาเป็นเกษตรกร ตอบแบบภูมิใจเลยครับ ว่า
เกษตรกร นี่แหละของจริง ข้าวปลานี่แหละของจริง ..

เราอยากทำให้การทำการเกษตรแบบเดิมๆ ดีขึ้น เพราะว่าพื้นฐาน ความรู้ทางด้านอื่น เรามีมากพอ
คงช่วยเสริมกันได้ ก็ต้องดูกันต่อไปครับ ใจหายเหมือนกัน แต่ตัดสินใจแล้ว ก็ต้องทำให้ดีที่สุด ..

อธิบายเรื่องเงาะ แบบคนจันท์

เงาะสีทอง หวานๆ กรอบๆ จากจันทบุรี

หลังจากที่อธิบายถึงเรื่องทุเรียนทอด อบกรอบ แต่ละแบบไปแล้ว วันนี้ผมขอมาพูด มาอธิบาย ถึงเงาะ ประเภทต่างๆ ให้เพื่อนๆ ได้มีความรู้กัน ในฐานะที่ผมเป็นลูกหลานชาวสวน จากจันทบุรี ..

ในปัจจุบัน เงาะ ที่ปลูกที่จันทบุรี มีด้วยกัน 3 สายพันธุ์ คือเงาะสี เงาะโรงเรียน และเงาะสีทอง ..
เงาะสี เป็นเงาะพันธุ์พื้นเมืองดั้งเดิม ที่ปลูกกันมานาน ผลจะออกสีชมพู ลูกไม่ใหญ่มาก ราคาไม่แพง
เงาะโรงเรียน เป็นเงาะที่นิยมปลูกกันในปัจจุบัน ผลจะออกสีแดงเข้ม ปลายขนจะออกสีเขียว ลูกใหญ่ เนื้อกรอบ หวาน อร่อย ราคาจะสูงกว่าเงาะสายพันธุ์อื่น
เงาะสีทอง เป็นเงาะที่นิยมปลูกกันมากขึ้น ผลจะคล้ายๆ เงาะโรงเรียน แต่สีจะออกเหลืองส้ม ลูกใหญ่ กว่าเงาะโรงเรียน กรอบ อร่อย แต่ไม่หวาน เท่าเงาะโรงเรียน

ราคาเงาะสีทอง-โรงเรียน หน้าสวน ปัจจุบัน May 2017 ก็จะอยู่ที่ 17-25 บาท ถือว่าเป็นราคาที่เหมาะสม ชาวสวนก็ยิ้มได้ คนซื้อก็คุ้มค่า เงาะสดๆ ใหม่ๆ จากต้น จะกรอบ อร่อยมาก ..

มีหลายๆ ท่าน มาถามผมว่า ทำไม ที่จังหวัดเค้า (พิจิตร) ขาย 3-4 กิโลกรัม 100 บาท ได้ แล้วไปเอากำไรจากไหน เพราะราคาหน้าสวน ก็ 25 บาทแล้ว ไหนจะค่าขนส่งอีก ค่าเสื่อมสภาพอีก ..

จริงๆ แล้ว มีเงาะอีกประเภทนึง ที่ชาวสวนเรียกว่าเงาะคัด คือคัดลูกที่ไม่สวยออกมา อาจจะเพราะขนไม่สวย มีราดำที่ขนบ้าง อะไรบ้าง เงาะเกรดนี้ ราคาจะไม่แพง กิโลกรัมละ 3-4 บาท เมื่อก่อน จะส่งเข้าโรงงานทำเงาะกระป๋อง แต่ปัจจุบัน พ่อค้าแม่ค้า นิยมรับไปขายปลีก เพราะราคาต้นทุนไม่แพง จริงๆ คุณภาพ ก็ไม่ได้ต่างไปจากเงาะปกติ แค่รูปลักษณ์ภายนอก ไม่สวยเท่า แค่นั้นเอง รสชาดเหมือนกัน ..

สำหรับเพื่อนๆ ที่อยากเลือกซื้อเงาะ คุณภาพดีๆ กรอบๆ หวานๆ ลักษณะ ที่ควรสังเกตคือ
– ขน ต้องแข็ง ไม่เหี่ยว
– สี ต้องแดงสด เงาะโรงเรียน ปลายขนต้องเขียวเข้ม
– ลูกใหญ่ ยิ่งใหญ่ ยิ่งอร่อย
– ราคาเหมาะสม ไม่ถูกเกินไป ไม่แพงเกินไป

สำหรับข้อมูลต่างๆ ต้องขอขอบคุณ SookYen Farm จันทบุรี
http://www.sookyenfarm.com

อธิบายเรื่องคุณภาพ ของทุเรียนทอด อบกรอบ แบบคนจันท์

ทุเรียนหมอนทอง ทอด อบกรอบ จากจันทบุรี

สวัสดีครับ เพื่อนๆ ทุกท่าน ช่วงนี้เป็นหน้าผลไม้ ของทางภาคตะวันออก ปีนี้ผลผลิตดีครับ ทั้งเงาะ ทุเรียน มังคุด ลองกอง สละ และผลไม้อื่นๆ น้ำท่าปีนี้ก็ดี ไม่แห้งเหมือนปีที่แล้ว ราคาผลไม้ก็ถือว่าใช้ได้ ไม่ถูกเกินไปนัก ..

วันนี้จะมาขอพูดถึงและอธิบาย เกี่ยวกับทุเรียนหมอนทอง ทอดอบกรอบ สักหน่อยนะครับ เพราะมีเพื่อนๆ ชอบฝากผมซื้อ จากจันทบุรีกัน เป็น rare item เลยก็ว่าได้ “หมอนทองทอด จันทบุรี” ..

มาดูที่มาของทุเรียนทอด ทุเรียนกวน กันก่อนครับ การทอด การกวน เป็นวิธีการถนอมอาหาร อย่างหนึ่ง ของชาวสวน เพราะว่าเมื่อก่อน ทุเรียนราคาถูกมาก ขายไม่ออก ก็เลยเอาลูกดิบๆ มาทอดเป็นแผ่นๆ ส่วนลูกแก่ๆ ที่สุกมากๆ หล่นลงมา ก็จะเอาไปทำทุเรียนกวน ..

สมัยผมเด็กๆ ที่บ้านก็จะทำสวนทุเรียน ทุเรียนต้นใหญ่มาก ปลูกตั้งแต่สมัยรุ่นปู่ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นพันธุ์ชะนี เพราะทนต่อโรค สูงกว่าหมอนทอง สมัยนั้น ชะนี ราคากิโลกรัมละ 3 บาท หมอนทอง 7 บาท คือถูกมากๆ เพราะเรายังไม่ค่อยมีการส่งออก ไปยังต่างประเทศ จะบริโภคกันแต่ภายในประเทศ ชะนีจะเอามากวน เพราะทอดไม่ได้ เนื้อจะเละ หมอนทอง แก่ๆ จะเอามาทอด ..

แต่เมื่อ 4-5 ปีมานี้ การคมนาคม ขนส่งสะดวกขึ้น การส่งออกดีขึ้น ทำให้ราคาทุเรียน โดยเฉพาะหมอนทอง ราคาแพงขึ้นมาก มีล้งจีนเข้ามาตั้งรับซื้อกันมากมาย เห็นเค้าว่ากันว่า คนจีนชอบกินทุเรียน ปัจจุบัน ราคาตัดจากสวน ประมาณ 50-100 บาท ต่อกิโลกรัม แล้วแต่คุณภาพ คือพูครบ ลูกได้ขนาด ผิวสวย ก็จะแพงหน่อย ..

ทำให้สมัยนี้ จะหาทุเรียน หมอนทองกวน ได้ยากมาก ถ้าเป็นชะนีกวน ก็ยังพอมีบ้าง ส่วนทุเรียนหมอนทองทอด ปัจจุบัน ราคาทุเรียนดิบ ความแก่ 85-95% ก็หายากมากขึ้น ราคาแพงขึ้น เพราะทุเรียนดิบ 10kg เมื่อนำมาทอดแล้ว จะเหลือประมาณ 1kg เท่านั้น ..

ทุเรียนใต้ กับทุเรียนตะวันออก (ระยอง, จันทบุรี, ตราด) ต่างกันยังไง?
– คำถามนี้มักเจออยู่บ่อยๆ ทุเรียนใต้ ส่วนใหญ่ เนื้อจะจืดกว่า ไม่เหนียว ไม่หวานเท่า ทุเรียนจันทบุรี หรือทุเรียนภาคตะวันออก เพราะว่าฝนตกชุกทั้งปี ..

ทุเรียนทอด อบกรอบ เลือกซื้อแบบไหนดี มีหลายเกรด หลายราคาเหลือเกิน?
– ปัจจุบัน ที่ผมเห็น คือมีการ ผสมสี หรือขมิ้น หรือเนย ไปในทุเรียนทอดด้วย หรือบางทีก็หั่นเป็นแท่งๆ แบบมันฝรั่งทอด ในความคิดเห็นส่วนตัว ผมคิดว่า มันเป็นการทำลายคุณค่าของทุเรียนทอด แบบดั้งเดิม (original) ที่มันดีอยู่แล้ว อร่อยอยู่แล้ว ที่ไม่ชอบเลย คือตามร้านของฝาก ย้อมสีซะเหลืองเลย ซึ่งมันไม่ใช่สีธรรมชาติ ของทุเรียนทอด ..

แต่สำหรับคนที่ไม่เคยเห็น ไม่เคยกิน ทุเรียนทอด แบบดั้งเดิมจริงๆ ก็คงไม่รู้ ว่าเป็นยังไง รสชาดจะหวาน หอม กรอบ อร่อย มากๆ สีไม่เข้ม จะเป็นสีขาว เหลืองอ่อนๆ น้ำตาลอ่อนๆ ไล่สีกัน ..

สำหรับทุเรียนทอด ที่แนะนำ ให้เลือกซื้อคือ
– เป็นสีธรรมชาติ ไม่ย้อม ไม่ใส่สี ซะจนเหลืองเกิน
– ไม่เหม็นหืน ทอดสดๆ ใหม่ๆ กรอบๆ
– ไม่ใส่เนย หรือผงปรุงแต่งอื่นๆ ให้เสียรสชาดทุเรียน
– บรรจุในวัสดุที่ดี ซีลอย่างดี จะเก็บไว้ได้นาน
– มีป้าย อย. และระบุส่วนประกอบ แหล่งผลิตที่ชัดเจน
– ราคามาตรฐาน ไม่ถูกเกินไป ไม่แพงเกินไป

สำหรับใครที่ชอบกินทุเรียนทอด หรือต้องการซื้อเป็นของฝาก ติดต่อมาได้ครับ เป็นทุเรียนทอด จากจันทบุรี จากโรงงาน ที่ดีที่สุด มาตรฐานสุด ประสบการณ์หลาย 10 ปี มี อย. มีฉลากระบุส่วนประกอบ ที่อยู่โรงงาน วันผลิต วันหมดอายุ ชัดเจน ..

ที่สำคัญ ทอดสดตาม order ไม่ stock ไว้นาน และราคาไม่แพงครับ ..

สั่งซื้อ ตาม Link นี้เลยครับ (SookYen Farm)
http://www.sookyenfarm.com/shop