ภาพประกอบจาก http://store.apple.com/
สวัสดีครับ ผมห่างหายไปนาน ไม่ได้มาเขียน blog เพราะว่าไม่ค่อยว่าง
ตอนนี้ระบบงานต่างๆ ที่ดูแลอยู่เริ่มเข้าที่เข้าทางละ ก็เหลือแต่ R&D
และวางแผนรองรับการขยายตัวอย่างรวดเร็วในอนาคต ว่าจะมีวิธีการ
วาง Infrastructure แบบไหน และเอาเทคโนโลยีของ Open Source
ตัวไหนเข้ามาใช้งานดี ถึงจะสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่องและมั่นคง ..
หลังจากที่เจ้า MacBook Alu ของผมจอมีปัญหา จะซ่อมก็แพงพอๆ กับซื้อใหม่
ก็เลยตัดสินใจสั่งซื้อ MacBook Pro 13″ เครื่องใหม่จากทาง Apple Store
ซึ่งผมสั่งในราคา k-12 ได้ร้บส่วนลด ประมาณ 4,000 บาท จากราคาที่ขาย
ก็ถือว่าประหยัดได้มากทีเดียว เครื่องส่งมาจากสิงคโปร์ ผ่าน DHL มาถึงตั้งแต่
13 พ.ค. 2010 แล้ว แต่ว่าทาง DHL ไม่สามารถนำส่งได้ เพราะเหตุการบ้านเมือง
ที่เป็นแบบนี้ มีการปิดถนนกันหลายจุดทั่ว กทม. เท่าที่คุยกับเจ้าหน้าที่ผมสามารถ
เข้าไปเอาเองที่คลังสินค้าของ DHL ที่ตั้งอยู่แถวช่องนนทรีย์ได้ ก็เลยตัดสินใจ
เข้าไปเอาเอง ทางที่ไปต้องผ่านชุมชนบ่อนไก่ คลองเตย แต่ดีที่วิ่งบนทางด่วน
ข้างล่างเป็นควันดำที่เกิดจากการเผายางรถยนต์ ทั่วไปหมด น่ากลัวมาก เคยเห็น
แต่ประเทศอื่น ไม่คิดเลยว่าจะเกิดกับเมืองไทยของเรา ..
ตอนนี้ผมก็ได้เจ้า MacBook Pro 13″ มาละ วันหลังจะถ่ายรูปมาให้ชมกันครับ
Spec ก็มีประมาณนี้ ซึ่งถือว่ามากเกินพอแล้วสำหรับผม แบบนี้รัน VirtualBox ชิวๆ
13-inch: 2.4GHz
Intel Core 2 Duo
4GB Memory
250GB hard drive
SD card slot
Built-in battery (10 hours)
NVIDIA GeForce 320M graphics
สำหรับ MacBook Pro (mid 2010) จะ built in battery มาไม่สามารถ
ถอดเปลี่ยนได้เอง เหมือน MacBook Alu รุ่นที่ผ่านมา ซึ่งตรงส่วนนี้
ผมคิดว่าเป็นการประหยัดต้นทุนในการผลิตของ Apple เองเพราะไม่ต้อง
มาทำกลไกการถอด battery แล้วก็ไปโฆษณาตรงเรื่องอายุการใช้งานแบต
ซึ่งผมก็คิดว่าถือว่าแฟร์ กับราคานี้และคุณภาพขนาดนี้ สำหรับเรื่องแบต
ที่บอกว่าอยู่ได้ประมาณ 10 ชั่วโมง ผมเองก็ยังไม่ได้ทำการทดสอบ ไว้ว่างๆ
จะเอาผลการทดสอบ จากการใช้งานจริงมาเล่าให้ฟังครับ ..
ตอนนี้ก็มีอาวุธคู่กายกลับมาละ พร้อมเดินทางเสมอ ไปไหนก็แบกไปได้
ตอนที่ MacBook Alu ผมพัง เสาร์-อาทิตย์ แทบไม่ได้ออกต่างจังหวัด
เพราะว่าไม่ค่อยอุ่นใจ กลัวว่ามีปัญหาอะไรมาแล้วแค่ iPhone 3GS
จะไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ทันท่วงที ตอนนี้หายห่วงละ ชิว ..