ช่วงก่อนสงกรานต์คือวันที่ 29 Mar – 10 Apr 2016 ที่ผ่านมา เรามีโอกาส
เดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่น แบบ backpack คนเดียว โดยจองตั๋วราคาถูกของ
Air Asia ไว้ตั้งแต่ปีที่แล้ว ช่วงที่ไปเป็นช่วงที่อากาศกำลังดี ไม่หนาวมาก
Sakura และดอกไม้อื่นๆ กำลังบานสพรั่งสวยงาม ..
การเดินทางของเราครั้งนี้ นอกจากจองที่พัก ที่เป็น Hostel ที่ Tokyo และ Kyoto ไว้
ซื้อ JR Pass แบบ 7 day เอาไว้เดินทาง ซื้อ Net SIM แบบ 8 day 4GB เอาไว้ดูเที่ยวรถไฟ
อย่างอื่นเช่นเรื่องสถานที่เที่ยว ที่จะไป เราก็ไม่ได้ plan อะไรไปตายตัวมากนัก
เพราะเราเดินทางคนเดียว หลงบ้าง ไรบ้าง ก็สนุกไปอีกแบบ เราไม่ซีเรียส ว่าต้องเป๊ะ ..
เดินทางจากไทย ไปถึง Narita Airport ก็ช่วงเช้าพอดี ไปถึงก็เอา JR Pass ที่จองไว้
ไปแลกเป็นบัตรแข็ง เพื่อเดินทางเข้าที่พัก ที่เป็น Hostel ที่ Tokyo นั่ง NEX8 เข้าไป
ที่พักที่เราจองไว้ ชื่อ toco เป็น Hostel & Bar แนว chic chic ใสๆ วัยรุ่นชอบ ..
เดินทางไปที่อื่นใน Tokyo ไม่ยาก เพราะอยู่ใกล้ Ueno station ที่เป็นสถานีใหญ่ ..
เราพักอยู่ Tokyo 4 คืน ระหว่างที่อยู่ Tokyo ก็นั่งรถไฟ ไปเที่ยวเมืองใกล้ๆ
มี JR Pass นี่สะดวกสบายดีจริงๆ รถไฟเค้าเวลาเป๊ะดีมาก แล้วก็ไม่ต้องรอนาน
แป๊บเดียวก็มา เส้นทางก็ปรับเปลี่ยน adapt เอาได้ง่าย เวลาเราจะเดินทาง
เราจะดูตารางเที่ยวรถไฟจาก HyperDia.com เอา สะดวกมากในการเดินทาง ..
เมืองใกล้ๆ ที่เราเดินทางไปเช้าเย็นกลับ แล้วประทับใจมาก ก็เป็น Yokohama
เพราะว่า เป็นช่วงที่ซากุระกำลังบาน สวยงามมาก หลงๆ ไปเจอพอดี ..
แถวๆ Yokohama Port ก็มีที่เดินเล่น ที่ชิล ที่ถ่ายรูป ร้านรวงต่างๆ เยอะดี ..
อีกเมืองนึงที่มีสถานที่ท่องเที่ยวเยอะมาก ก็คือ Fujisawa ที่อยู่ติดทะเล
เมืองนี้ชิลมาก ของกินอร่อยๆ เยอะ คนญี่ปุ่นเองก็มาเที่ยวกันเยอะ ..
ส่วนเมือง Kamakura ที่มีพระใหญ่ (Daibutsu) ก็เป็นอีกที่นึงที่นักท่องเที่ยว
ไปกันเยอะมาก เราเองก็เดินทางไปเรื่อยมั่วๆ หลงๆ ไป อยู่ย่านนี้ทั้งวัน ..
ส่วนใน Tokyo เอง จริงๆ แล้วที่เที่ยวที่น่าไปก็มีเยอะมาก ทั้งแนวไหว้พระ
แนว shopping แนวสวนสนุก แนวกินอาหาร แนวเที่ยวกลางคืนแสงดี
มีให้เลือกหมด ตอนกลางคืน เราไปถ่ายแสงที่ Odaiba ก็รวยดี มองเห็น
Tokyo Tower ในระยะที่แสงตัดกับสะพาน สวยดี ..
จากนั้นเราเดินทางไป Kawaguchiko เพื่อชม Mt.Fuji วิธีการไปก็ง่ายมาก
สามารถนั่ง NEX8 ไปได้เลย แต่เราเดินทางจาก Tokyo จะย้อนกลับมา Narita Airport
ถ้าไม่อยากเดินทางย้อนไปย้อนมา เราแนะนำว่า ให้ไป Kawaguchiko ก่อน
แล้วค่อยกลับมาเที่ยว Tokyo จะสะดวกกว่า ..
สำหรับใครที่มา Kawaguchiko แนะนำให้ซื้อ Kawaguchiko Pass ประมาณ 2,000 Yen
เที่ยว 2 วัน ที่สถานีรถไฟ Kawaguchiko ไว้เลยครับ เพราะว่าจะรวมค่ารถบัส และ
ค่าเข้าสถานที่ต่างๆ รวมถึงค่าขึ้นกระเช้าไปชม บ้านกระต่าย ไว้หมดแล้ว ..
Kawaguchiko เป็นเมืองเงียบๆ สงบ เกินสองทุ่ม ก็ไม่มีใครออกมาเดินกันแล้ว
ส่วนใหญ่จะเข้าที่พักกันหมด สำหรับใครที่ชอบแสงสี แนะนำว่า ลองมานอนสักคืน
ก็น่าจะพอแล้วครับ กลางวัน ก็สามารถนั่งรถบัส เที่ยวสถานที่ต่างๆ รอบทะเลสาป
ได้ครบภายในวันเดียว แต่ถ้าใครที่จะไปจุดชมวิว ที่เจดีย์แดง ต้องนั่งรถไฟย้อนกลับไป
อีก 2 สถานีครับ แล้วเดินไปตามป้ายบอกทาง ไม่ไกลจากสถานีมากนัก ..
เราเองนอนที่นี่ 2 คืน เพราะว่าเป็นครั้งแรกที่มา เลยอยากสัมผัส กับบรรยากาศ
แบบเต็มๆ ของ Kawaguchiko เราว่าสำหรับที่นี่ เป็นจุดที่ชม Mt.Fuji ได้สวยงาม
มากๆ โดยเฉพาะร้านกาแฟ ที่ bus stop 21 ถ้าเพื่อนๆ มาก็แนะนำให้มาจุดนี้ด้วย ..
หลังจากอยู่ที่นี่มาได้ 2 วัน 2 คืน เราก็เดินทางต่อไป Kyoto เลย โดยนั่ง NEX8
ไปต่อ Shinkansen ที่สถานี Shinjuku จากนั้นวิ่งยาวไปยังสถานี Shin-Osaka
จากนั้นนั่ง Kyoto Line ต่อเข้าไปยัง Kyoto Station และต่อรถบัสเข้าไปที่พัก
ที่เป็น Hostel ชิคๆ คูลๆ ที่จองไว้ คือ Len Kyoto ที่อยู่ใจกลาง Kyoto
ใกล้ๆ กับแม่น้ำ Kamo ที่สองฝั่งแม่น้ำ มีซารุระบ้านสะพรั่ง สีชมพูเต็มไปหมด ..
ติดตามอ่าน ตอนที่ 2 ตะลุย Kyoto + Osaka ได้เร็วๆ นี้ครับ ..