ตักบาตรข้าวเหนียว ที่หลวงพระบาง
สวัสดีปีใหม่ ล่วงหน้าครับ ปีนี้ ก็เป็นอีกปีนึง ที่ผมมา countdown ที่หลวงพระบาง
กับเพื่อนพ้องน้องพี่ เมื่อสองปีที่แล้ว ผมก็มาหลวงพระบาง ช่วงปีใหม่เหมือนกันครับ ..
ครั้งนี้นับเป็นการเดินทางที่ตื่นเต้นไม่น้อยครับ เพราะว่ามาเส้นทางใหม่ ที่อนาคต จะเป็น
เส้นทางที่น่าสนใจมากๆ เส้นนึงครับ ผมจะเล่าถึงการเดินทางกันก่อนนะครับ เดี๋ยวเอารูป
มาลงเพิ่มเติมอีกทีครับ ..
ผมเริ่มจากนั่งรถทัวร์ จากหมอชิต มาลงที่เมืองน่าน เดินทางด้วยกัน 6 ชีวิตครับ
ออกเดินทาง 19.30 น. ของวันที่ 27 ธันวาคม 2011 มาถึงน่านก็เช้าๆ แล้ว
ต่อรถบัสส้ม ตอน 06.00 น. มาลงที่ทุ่งช้างครับ แล้วก็เหมารถสองแถวมาลง
ที่ด่านห้วยโกร๋น ระหว่างการเดินทาง ได้พบมิตรภาพ ของผู้คนท้องถิ่นตลอดการเดินทาง
คนน่าน ใจดีและมีน้ำใจมากครับ ผมและคณะการเดินทาง ประทับใจกันมากๆ ครับ ..
จากด่านห้วยโกร๋น เราก็เดินข้ามมาที่ด่านเมืองเงิน ของทาง สปป. ลาว จากนั้นเจอ
พี่คนไทยใจดี ที่มาขี่เสือภูเขาเที่ยวเมืองเงิน แนะนำเรื่องการเหมารถเรา ซึ่งได้ราคาถูกว่า
ราคาเหมาที่ด่านเมืองเงิน เกือบครึ่ง เรานั่งรถตู้ของคุณลุง ที่ใจดีมาก มาลงที่เมืองปากแบ่ง
ในราคาแค่ 1500 บาท ก็คุยตกลงเรื่องราคา เฮือเร็ว (speed boat) จากปากแบ่ง
เพื่อมาหลวงพระบางกัน สรุปได้ที่ราคา 5000 บาท ระยะเวลาที่ใช้เดินทาง ก็ประมาณ
สองชั่วโมงกว่าๆ แต่ว่าตลอดเวลาที่นั่ง ทิวทัศน์ ริมน้ำโขงสองข้างสวยงามมากครับ ผมเอง
ก็เพิ่งเคยเห็นเหมือนกัน และเราได้ตื่นเต้นกันตลอดเส้นทางการเดินทาง ถ้าใครไม่เคยมา
หลวงพระบางเส้นทางนี้ ผมแนะนำเลยครับ รับรองว่าน่าประทับใจแน่นอน ..
เรามาถึงหลวงพระบางกันก็ประมาณเวลา 16.30 น. ของวันที่ 28 ธันวาคม 2011
ที่พักที่เจ๊ตุ้ม จองไว้ผ่านทางเน็ต ก็คือที่ “พะสิด guesthouse” ที่พักอยู่ข้างๆ พระธาตุพูสี
ใกล้ๆ ริมน้ำคาน ที่พักสะอาด ดีมาก และเจ้าของเป็นกันเอง มี WiFi ให้ใช้ สบายๆ ..
หลวงพระบางเป็นเมืองที่สวยงาม สงบ ทุกอย่างลงตัว คนลาวมีน้ำใจ และมีความซื่อสัตย์
ยกเว้นพวกรถราต่างๆ ที่ชอบหาเรื่องเราเปรียบ จะโกงเราตลอดเวลา ตรงนี้ ถ้ามาลาว
ต้องระวังกันให้ดีๆ ครับ อย่าเพิ่งไปตามราคาที่เค้าจะเหมา เพราะมันแพงมาก ให้เดินมา
จากตรงนั้นอีกนิดหน่อย เจอถนน ก็จะเจอ สามล้อ คันอื่นๆ ที่ราคาถูกว่าหลายเท่า ..
ช่วงเวลาตลอด สี่วัน มีกิจกรรมต่างๆ ให้ทำเยอะมาก ที่หลวงพระบาง ช่วงนี้นักท่องเที่ยว
มีจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น ฝรั่ง ญี่ปุ่น และที่มากที่สุด ก็คือคนไทย มีคนจำนวนไม่น้อย
ที่มาหลวงพระบางแล้วประทับใจ แล้วกลับมาอีก หลายรอบ เรื่องอาหารการกินถ้าเทียบกับ
ที่เมืองไทยของเรา อาหารอาจจะแพงกว่าหน่อย เพราะว่าทุกอย่างต้อง import เข้าจากไทย
แต่โดยรวมแล้ว ถือว่าค่าครองชีพไม่ได้ต่างกันเท่าไร ..
คืนนี้รอ countdown ที่หลวงพระบาง แล้วผมจะมาสรุปเรื่องราวต่างๆ ที่ผ่านมาของผม
และอนาคตในปี 2012 อีกรอบครับ 🙂