นั่งรถไฟ ไปฮานอย


เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากปิดงาน project นึงเสร็จ ผมก็มีความคิดที่ว่า อยากลอง นั่งรถไฟ
ไปที่ไหนสักแห่ง แบบที่เค้าไปกัน อย่างเช่น Trans-Siberian แต่ผมเอง ตอนนี้ ยังไม่มีเวลา
และความพร้อมมากขนาดนั้น เลยจะลองหา mini trip ดูก่อน จะได้เตรียมความพร้อมไว้ ..

17 Oct 2017
ตัดสินใจเก็บของใช้ที่จำเป็น ใส่เป้ deuter 55+10 คู่ใจ ที่ใช้ตลอด เวลา backpack ไปที่ต่างๆ
มาที่สถานีรถไฟ หัวลำโพง ถึงหัวลำโพง ประมาณ 3PM ก็เลยมองๆ หา สถานีปลายทางที่อยากไป
สุดท้าย ตัดสินใจว่า น่าจะนั่งไปลงหนองคาย แล้วข้ามไปฝั่งลาว จากลาวนั่งรถบัส ไปลงฮานอย จากนั้น
ค่อยว่ากันอีกที ว่าจะไปไหนต่อดี ..

รถไฟชั้น 3 ขบวน 77 กรุงเทพ (Bangkok) – หนองคาย (Nong Khai) ราคาตั๋ว 253 บาท
ออกจาก กรุงเทพ 6.35 PM ถึง หนองคาย 4.15 AM

นานแล้ว ที่ไม่ได้นั่งรถไฟชั้น 3 นานๆ แบบนี้ ก็สนุกดี ได้พูดคุยกับเพื่อนร่วมเดินทาง ในขบวนเดียวกัน
ส่วนใหญ่ จะเป็นคนอีสาน และคนลาวจากฝั่งลาว ที่มาทำงาน ใน กทม. และเมืองใหญ่ๆ ในไทย
เดินทางกลับบ้านกัน เพื่อไปทำนา เกี่ยวข้าว หลังผ่านช่วงเก็บเกี่ยว ถึงจะเดินทางกลับไปทำงานที่เดิม ..

18 Oct 2017
รถไฟมาถึง สถานีปลายทาง หนองคาย ประมาณ ตี 4 ผู้คนต่างลงจากรถไฟ บ้างก็มีญาติพี่น้องมารอรับ
บ้างก็นั่งรถสามล้อ ไปบ้าน หรือนั่งไปต่อรถที่ขนส่งอีกทีนึง ผมเองลงมาล้างหน้าล้างตา แปรงฟัน
แล้วก็นอนต่อสักพัก (เอาถุงนอนมาด้วย) เพราะยังมืดอยู่เลย ไม่รู้จะไปไหนยังไง ..

นอนอยู่ มีลุงขับสามล้อ มาเรียก บอกว่าไปขนส่ง 60 บาท ผมเองเลยบอกเดี๋ยวค่อยไป ขอพักสักแป๊บนึงก่อน
ประมาณสัก 6 โมงเช้า ลุงมาเรียกอีกรอบ ผมก็เลยไปกับแก ไปถึงขนส่งหนองคาย รถบัสที่จะเข้าไป
ฝั่งลาว มีเที่ยว 7.30 AM ผมเองอยากหาซื้อข้าว ซื้ออะไรกินก่อน ก็เลยซื้อตั๋วเที่ยว 9.30 AM แทน ..
ปล.จริงๆ แล้ว ถ้ารออีกสักนิด จะมีขบวนรถไฟ หนองคาย – เวียงจันทร์ วิ่งเข้าลาวเลย ไม่ต้องต่อหลายต่อ
ราคา 20 บาท อันนี้ พี่คนไทย ที่มาปั่นจักรยาน ในลาว เขาบอกมาอีกที ตอนผมไปเจอพี่เค้าที่ขนส่งสายใต้ลาว ..

ระหว่างที่รอรถ ก็เดินเล่น หาถ่ายรูปแนว street ในตลาดสด ใกล้ๆ สถานีขนส่ง และหาข้าวเช้ากิน ..
9.30 AM รถบัส ก็ออกตรงเวลา จากสถานีขนส่ง หนองคาย ข้ามสะพานมิตรภาพไทย-ลาว ผ่านด่าน
ตรวจคนเข้าเมือง มาจอดที่ตลาดเช้าเวียงจันทร์ ผมโชคดี ได้เพื่อนตอนนั่งรถมาด้วยกัน เป็นสาวเวียดนาม
เชื้อสายไทย พูดไทยได้ ชื่อฟ้า ทำงานอยู่ศรีราชา เค้ากำลังกลับบ้าน ที่ดานัง เหมือนกัน เค้าก็เลยพาผมไปขึ้น
รถเมล์เขียว เพื่อไปลง ที่ขนส่งสายใต้ ซึ่งอยู่ไกลกันพอสมควร ค่ารถเมล์ ประมาณ 20 บาทไทย ..

ถึงขนส่งสายใต้ กว้างขวาง สะอาดสะอ้านดี แต่ว่ารถที่จะไป ฮานอย มีเที่ยว 6.00 PM ผมก็เลยหาอะไรกิน
เดินถ่ายรูปเล่น แถวๆ นั้นไปเรื่อย เจอพี่คนไทย ชื่อสงกรานต์ มาทำงานที่เวียงจันทร์ เลยมาปั่นจักรยานเล่น
ได้คุยกับพี่เค้า ได้ความรู้ในการเดินทาง และประสบการณ์ต่างๆ ในลาวเยอะพอสมควรเลย ..

Hanoi – Sapa 1st Time

FANSIPAN, Sapa

เมื่อช่วงกลางเดือน ธันวาคม 2016 ที่ผ่านมา ผมมีโอกาสได้ไปเยือนเวียดนาม
อีกครั้งนึง แต่ครั้งนี้เป็นเวียดนามตอนเหนือ ซึ่งผมเองก็เพิ่งเคยมาครั้งแรก เหมือนกัน
ที่ plan ไว้คร่าวๆ ก็คือจะเที่ยวฮานอยสักวันนึง แล้วขึ้นไปซาปา สัก 2 วัน ..

14 Dec 2016
ขึ้นเครื่องจากดอนเมือง มาลงนอยไบ (Noi Bai International Airport) ฮานอย
ด้วยสายการบิน Air Asia ก็เวลาเกือบ 9PM แล้ว ลงเครื่องเสร็จ จัดการซื้อ SIM
ของ Viet Mobile เพื่อที่จะได้ใช้ค้นหาข้อมูล และ maps ในการเดินทางได้ ..
ผมออกจากสนามบิน ด้วย shuttle bus ไปลงที่ Station 7 (Old Quarter)
ซึ่งเป็นย่านเมืองเก่า และเป็นถนนคนเดินของที่นี่ เดินทางไปไหนก็สะดวก คล้ายๆ
ย่านข้าวสาร บ้านเรา นักท่องเที่ยว ก็จะพักกันบริเวณนี้ อาหารการกิน ก็สะดวก สบาย ..

ที่พักที่ผมจองไว้ เป็น Hostel คืนละ 180 บาท ผ่าน agoda.com เป็น Hostel
ที่ชาวต่างชาตินิยม มาพักกัน ชื่อ Old Quarter View Hanoi Hostel ราคาคุ้มมาก
ห้องนอนรวม และ ห้องน้ำสะอาดมาก มีจำนวนหลายห้อง ไม่ต้องรอคิวอาบน้ำ
ที่สำคัญมีบริการอาหารเช้าฟรี อยู่ในย่าน Old Quarter เดินไปไหน มาไหนก็สะดวก
และย่านนั้น คึกคักตลอดทั้งวัน ..

ถึงที่พัก checkin เสร็จ ก็เอาของไปเก็บไว้ ใน locker ห้องที่ผมนอนเป็นห้องนอนรวม 8 คน
ส่วนใหญ่เป็นเพื่อน backpacker ชาวเยอรมัน และยุโรป ไม่ค่อยเจอคนเอเชีย เท่าไร ..
จากนั้นก็ลงมาเดินเล่น ตามถนนคนเดิน ร้านอาหารต่างๆ เยอะมาก คึกคักมาก ร้านเสื้อผ้า
พวก the north face (เวียดนาม) ก็มีเยอะมาก ขายกันตลอด เพราะเป็นที่นิยมของ
นักท่องเที่ยวไทย จะมีถนนเส้นนึงที่เป็นย่านที่นักท่องเที่ยว และคนฮานอยเอง มานั่งดื่มเบียร์กัน
เค้าจะมีเก้าอี้ตัวเตี้ยๆ จัดไว้ให้ ใครอยากนั่งตรงไหน ถ้าว่าง ก็มานั่งได้ เบียร์ที่นี่ ราคาไม่แพง
มีหลากหลายยี่ห้อมาก ผมก็มานั่งพักตรงนี้ หลังจากเดินถ่ายรูป night life ไปทั่วย่านนี้
นั่งดื่มเบียร์ ดูหญิง ไปเรื่อย ก็ชิลดีเหมือนกัน ประมาณเที่ยงคืน เค้าก็เก็บร้านกัน ..

15 Dec 2016
วันนี้ ผมตั้งใจจะเดินทางไป Sapa ในตอนกลางคืน ด้วยรถบัสแบบนอน ก็เลยให้ทาง Hostel จองให้
ราคา 15 USD ถูกกว่ารถไฟนอนครึ่งนึง แล้วก็มีข้อดีคือไม่ต้องต่อรถ เพราะรถจะไปถึงซาปา เลย
แต่รถมีแต่ช่วงดึก ผมได้รถเที่ยว 9PM แต่เอาเข้าจริง กว่าจะได้ขึ้นก็ 10PM
ตอนเช้าก็เลยเดินเล่น เก็บภาพไปเรื่อย ทั้งแนว street – life ของชาวฮานอย
เดินเล่นบริเวณรอบๆ ทะเลสาป นั่งร้านกาแฟ เดินดูอะไรไปเรื่อย เพื่อรอเวลาขึ้นรถไปซาปา
พอใกล้เวลารถออก ก็จะมีพนักงานขี่มอไซค์มารับที่ Hostel แต่จริงๆ เดินไปก็ได้ ไม่ไกลมาก
ไปถึงก็เจอนักท่องเที่ยวเยอะมาก รอขึ้นรถกันอยู่ ซึ่งระบบคิว ค่อนข้างมั่วมาก เพราะว่า
ใครจะขึ้นจะนั่งตรงไหน ก็ได้ รถจะมี 2 ชั้น เบาะมี 3 แถว สามารถปรับเอนนอนได้
ก่อนขึ้นเค้าจะให้ถุงพลาสติกเราใบนึง เพื่อไว้เก็บรองเท้า รถแบบนี้ผมเคยนั่งมาก่อนแล้ว
ครั้งนึงตอนนั่งจากโฮจิมินห์ ไปดาลัด ก็เลยยังพอเข้าใจ ถ้าใครเคยนั่งครั้งแรกคงงงเหมือนกัน
รถจะวิ่งยาว จาก ฮานอย – ซาปา แต่จะหยุดพักเป็นช่วงๆ ให้ได้เข้าห้องน้ำระหว่างทางกัน
ระยะทางจาก ฮานอย – ซาปา ประมาณ 300km ใช้เวลาประมาณ 5-6 ชั่วโมง เพราะ
เป็นทางขึ้นเขา และเค้าจำกัดความเร็ว และมีการเปลี่ยนกะกันขับ แบบนี้ก็ปลอดภัยดี ..

นอนอยู่เพลินๆ ประมาณตีสี่ รถก็มาจอดข้างทะเลสาป ที่ซาปา และคนขับก็มาเรียกบอก ซาปาๆๆ
พวกนักท่องเที่ยว ที่เคยมาครั้งแรกแบบผม ก็พากันงง เพราะมันมืดมาก ไม่รู้ว่าจะต้องเดินไปทางไหน
อากาศเย็นมาก แถมฝนตกอีก ผมเองยังไม่ได้จองที่พักมาด้วย ก็เลยไปหาร้านกาแฟ ที่เปิดเช้านั่ง
แล้วก็ search หาที่พัก จาก agoda ก็เลยได้โรงแรม ที่ดูจากรูปแล้ว Ok อยู่บนเนินนิดนึง
เดินทางไปไหนมาไหนก็สะดวก ชื่อ Sapa Elite Hotel ราคาก็ไม่แพงมาก คืนละ 800 กว่าบาท
แต่ถ้าใครจะมาซาปา ผมแนะนำโรงแรมข้างๆ ที่ชื่อ Sapa Panorama Hotel ดีกว่า
เพราะราคาไม่ต่างกันมาก แต่วิว และ lobby ดีกว่า สะดวกสบายกว่า ..

จุดนี้ผมว่าเป็นส่วนตัว และสะดวกสบาย ในการเดินทางเที่ยวชมเมืองซาปา เมืองในสายหมอก
เพราะว่าเดินลงไปด้านล่าง ก็คือโบสถ์คริส และย่านชุมชน ของซาปาแล้ว จะไปไหนก็เรียก
TAXI หรือมอไซค์รับจ้างไปส่ง ก็สะดวก ต่อรองราคานิดหน่อย เพราะส่วนใหญ่เป็นมาตรฐานอยู่แล้ว ..

Lao Cai, Sapa

Update 2018-05-09 ดองกันข้ามปี …

ซาปา เป็นเมืองเล็กๆ บนเทือกเขาสูง มีทะเลสาป มีหมู่บ้านชาวเขา เผ่าต่างๆ มากมาย
ที่ทำนาแบบขั้นบันได อากาศหนาว ตลอดทั้งปี ถ้าไปช่วงปลายปี จะหนาวมากและมีหมอกลง
ยืนห่างกัน ระยะประมาณ 3-4 เมตร ก็มองไม่เห็นหน้ากันแล้ว ..

ที่ซาปา ศูนย์กลาง ของเมือง จะเป็นบริเวณโบสถ์ ที่มีจตุรัส (น่าจะได้อิทธิพล มาจากฝรั่งเศส เพราะหลายๆ
เมืองของเวียดนาม ก็จะมีลักษณะแบบนี้ เช่น ดาลัด) สำหรับทำกิจกรรมของคนในเมืองซาปา
ไม่ว่าจะออกกำลังกาย เดินเล่น หรือขายของ กลางคืนจะมีถนนคนเดิน มีสินค้าหลากหลายประเภท
โดยเฉพาะ พวกเสื้อผ้า กระเป๋าทอมือ ของชนเผ่า มาขายกัน พวกปิ้งย่าง เสียบไม้ ก็มีเยอะมาก น่ากินดี ..

สำหรับนักท่องเที่ยว สาย trekking ก็ควรไปพิชิต ยอด ฟานซิปัน (Fansipan) สูง 3,143m
จากระดับน้ำทะเล เรียกได้ว่า เป็นหลังคาแห่งอินโดจีน เพราะสูงสุดในย่านนี้ ..

ตอนผมไปมีกระเช้า ขึ้นไปถึงยอดฟานซิปันแล้ว ค่าโดยสารกระเช้า ก็ประมาณคนละ 1000 บาท
ระหว่างที่นั่งกระเช้า จะเห็นวิวท้องนา ของหมู่บ้าน Tavan สวยงามมาก แต่ช่วงที่ขึ้นไป
สูงๆ มากๆ จะมีแต่หมอก มองไม่เห็นอะไรเลย ..

ใครที่ชอบธรรมชาติ วิวทุ่งนา นาขั้นบันได ก็สามารถเช่ามอเตอร์ไซค์ ขี่ หรือจ้างคนขับด้วยก็ได้
ไปหมู่บ้าน Cat Cat Village, หมู่บ้าน Tavan ภายในหมู่บ้าน ก็จะมีสินค้าหัตถกรรม ของชาวเผ่า
ต่างๆ ขายกัน ใครชอบก็สามารถซื้อติดไม้ ติดมือ กลับมาได้ครับ ..

กลับจากชมหมู่บ้าน ผมก็เดินเล่น ถ่ายพวกแนว street ผมชอบตลาดสด ของที่นี่มากๆ มีสินค้า
หลากหลายดี และดูมีชีวิตชีวา ไก่ที่นี่ตัวใหญ่มากๆ พืชผัก ก็ดูอุดมสมบูรณ์ กว่าบ้านเรา ราคาไม่แพง ..

ผมพักอยู่ ซาปา 3 วัน 2 คืน ก็เที่ยวซาปาได้ทั่ว ขากลับผมอยากลองนั่งรถไฟนอนบ้าง ก็เลยให้ทาง
โรงแรมจองให้ ราคาก็ประมาณ $40 ตอนจอง ให้บอกเจ้าหน้าที่ทางโรงแรม ว่าขอเตียงล่างนะครับ
เพราะถ้าได้ เตียงบน แบบผม จะนอนลำบากมาก จะลงมาเข้าห้องน้ำ ก็ลำบาก จะลุกนั่งก็ลำบาก ..

นั่งรถมินิบัส ออกจากโรงแรม มาลงที่สถานีลาวไก ห้องในตู้รถไฟ ที่ผมนอน จะมี 4 นอน เป็นเตียง 2 ชั้น
2 เตียง แต่มีผู้โดยสาร 3 คนเท่านั้น คือ 2 สาว จากประเทศอิสราเอล และผม อีก 1 คน ..

รถไฟ ใช้เวลาวิ่งประมาณ 8-9 ชั่วโมง มาถึงฮานอย ประมาณตี 5 ซึ่งยังมืดมาก ผมเปิด Google Maps
เพื่อที่จะเดินไปยัง Hostel ที่พักตอนแรก ที่อยู่ฮานอย ย่าน Old Quarter เพื่อที่จะอาบน้ำ แต่งตัว
รอไปขึ้นเครื่อง ที่สนามบินนอยไบ ..

สนามบิน นอยไบ จะกว้างเหมือนกัน มี T1, T2 ต้องเช็ค ดีๆ ว่าเที่ยวบิน ที่เราจะบิน ขึ้นที่ Terminal ไหน
แต่ส่วนใหญ่ ถ้าเป็นระหว่างประเทศ ก็จะเป็น Terminal 2 ที่สร้างใหม่ ..

สรุป ซาปา เป็นอีกเมือง ที่ผมประทับใจมาก อากาศเย็นสบาย แต่ตอนนี้ พอนักท่องเที่ยวมากันเยอะมากขึ้น
เมืองก็เริ่มจะขยับขยาย สิ่งก่อสร้างต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย อย่างไร้ระเบียบ ขยะ มลพิษต่างๆ ก็ตามมา ..
หวังว่าซาปา จะคงความเป็นเมืองเงียบสงบ บนเทือกเขา อากาศดีๆ วิวสวยๆ ที่น่าค้นหา แบบนี้ต่อไปนะ ..

ค่าใช้จ่ายที่ ฮานอย, ซาปา เริ่มจะพอๆ กับเมืองท่องเที่ยวบ้านเราแล้ว แต่ก็ไม่แพงมากนัก เที่ยวได้ชิลๆ ..

รูปภาพ เพิ่มเติม ฮานอย
https://web.facebook.com/pornpasok/media_set?set=a.10208740090524520.1073741852.1379813288&type=3

รูปภาพ เพิ่มเติม ซาปา
https://web.facebook.com/pornpasok/media_set?set=a.10208740012962581.1073741851.1379813288&type=3